EEC (Eastern Economic Corridor) เป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่รัฐบาลไทยผลักดันอย่างจริงจัง กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การลงทุนและสังคมดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ถือว่าเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ดึงดูดนักลงทุน รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เช่น สนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 เพื่อให้การขนส่งสะดวกรวดเร็วขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างชาติจนเกิดเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ทำให้พื้นที่ EEC มีความพร้อมทั้งด้านการคมนาคม อุตสาหกรรม แรงงานคุณภาพ เทคโนโลยี การท่องเที่ยว และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECนั้นมุ่งที่จะพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงที่สุดของประเทศทั้งด้านการลงทุน อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ซึ่งหัวใจสำคัญของการลงทุนใน EEC คือ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดศูนย์กลางอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก ถือว่าเป็นทำเลที่มีฐานการผลิตและการส่งออกระดับโลก มีท่าเรือน้ำลึก ระบบสาธารณูปโภคครบครัน และเป็นที่ตั้งของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ โดดเด่นด้วยอุตสาหกรรมปิโตรเคมี น้ำมัน ก๊าซ พลังงาน รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันและโรงไฟฟ้า
ทำไมอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC ถึงน่าลงทุน
- การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องซึ่งดึงดูดภาคอุตสาหกรรมและนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาทำงาน ส่งผลให้เกิดความต้องการด้านที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม และสำนักงานให้เช่า เป็นต้น หากนักลงทุน หรือผู้ประกอบการที่เลือกพื้นที่สำนักงานให้เช่าและโครงการเชิงพาณิชย์ใกล้พื้นที่ EEC มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดระยองซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีของประเทศที่มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน
- การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐที่ได้ทุ่มงบประมาณหลายแสนล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เช่น สนามบินอู่ตะเภา, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมืองและอู่ตะเภา ที่เพิ่มศักยภาพการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และ EEC, ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ที่ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางทะเล ทำให้ดึงดูดในเรื่องการเดินทาง และขนส่งที่รวดเร็ว
- ผลตอบแทนจากการลงทุนที่มั่นคง ความต้องการเชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีการลงทุนจากทั้งในไทยและต่างประเทศ ส่งผลให้โครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจอย่างสำนักงาน หรือออฟฟิศให้เช่ามีโอกาสสร้างรายได้และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ผลตอบแทนของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เลือกลงทุนในทำเลใกล้พื้นที่ EEC นั้นถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่มีความน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและนักลงทุนได้เป็นอย่างมาก
จากบทความข้างต้นได้รู้จักคำว่า EEC กันไปแล้วพร้อมเหตุผลที่ว่า “ทำไม EEC คือทำเลทองของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์” โอกาสสำหรับนักลงทุนหรือผู้ประกอบการมาถึงแล้ว….ใครที่กำลังมองหาสำนักงานให้เช่า บนทำเลทองใจกลางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ใกล้พื้นที่ EEC “โครงการ ดิ ออฟฟิศ มาบตาพุด” เป็นธุรกิจให้เช่าและการบริการ อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ได้ใกล้ชิดคู่ค้าและพันธมิตรในนิคมฯ อุตสาหกรรม ลดต้นทุนการเดินทาง เสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และเราพร้อมเติบโตไปกับคุณ
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ขนาดย่อมที่ครบจบที่นี่ทีเดียว มีทั้งร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ฟิตเนส, ห้องประชุม/สัมมนา, Co-Working Space และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงสิ่งอำนวนความสะดวก เช่น ลิฟต์, ที่จอดรถรองรับกว่า 100 คัน, ระบบรักษาความปลอดภัย เป็นต้น อีกสิ่งที่เราใส่ใจเป็นพิเศษ คือ เราเป็นสำนักงานให้เช่าแห่งแรกในไทยที่มีระบบป้องกันฝุ่น PM 2.5 เติมอากาศบริสุทธิ์ อาคารสำนักงานสะอาด ช่วยให้หายใจได้สะดวกนั่นเอง
